“ชินวรณ์” ยันแก้กลับใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวไม่ได้ ชี้ร่าง “พท.-ก.ก.-ประชาชาติ” ไม่สอดคล้องรธน. รับบัตร 2 ใบทำให้การเมืองเป็นปชต. ลดการซื้อเสียง พรรคเข้มแข็ง วอนทุกฝ่ายที่มีเป้าหมายตรงกันร่วมกันผ่านกฎหมายลูก
วันที่ 24 ก.พ.65 ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และพรรคการเมืองว่า มติวิปรัฐบาลว่าจะรับหลักการร่างฯว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ร่างแรก โดยการตั้งกรรมาธิการ 49 คน พิจารณาศึกษา ให้แปรญัตติ 15 วัน
เมื่อถามว่าจะมีการเคลื่อนไหวแปรญัตติกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว นายชินวรณ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นเจ้าของร่างแก้รัฐธรมนูญระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ มาตรา 81 และมาตรา 93 กำหนดบทบัญญัติชัดเจนว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปต้องเป็นระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ ส.ส.เขตเลือกตั้ง 400 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน จึงไม่สามารถกลับไปสู่ระบบเลือกตั้งบัตรใบเดียว
เมื่อถามว่ามีส.ส.ส่งคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน นายชินวรณ์กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ยืนยันว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่พรรคร่วมรัฐบาลได้เสนอต่อรัฐสภา เป็นการอนุวัติสอดคล้องตามรัฐธรรมนูนฉบับแก้ไขเพิ่มเติมระบบเลือกตั้งเท่านั้น และมีหลายพรรคการเมืองเสนอร่างกฏหมาย จะนำจุดเด่นแต่ละร่างไปปรึกษาหารือในชั้นกรรมาธิการ แต่ร่างกฏหมายว่าด้วยพรรคการเมืองที่มี 6 ร่าง ยังมีประเด็นที่ต่างกันในเชิงหลักการ หลายประเด็นวิปรัฐบาลเห็นว่า ควรรวมกันอภิปราย แต่การลงมติแยกการลงมติ โดยจะให้แต่ละฝ่ายอภิปรายแสดงความคิดเห็นก่อน จากนั้นจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะลงมติในแต่ละร่างอย่างไร โดยร่างของ ครม.และพรรคร่วมรัฐบาล มีความชัดเจนอยู่แล้ว ที่เป็นการแก้ไขสอดคล้องตามรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ส่วนประเด็นปีกย่อยคือเรื่องการลดข้อจำกัดการเป็นสมาชิกพรรค
นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองของพรรคเพื่อไทยยังมีประเด็นที่เป็นข้อถูกเถียงในมาตรา 28 และ 29 ที่เปิดให้บุคคลภายนอกสามารถแสดงความคิดเห็นหรือนั่งเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมืองได้ ซึ่งตรงข้ามกับเนื้อหาสาระของร่างกฎหมายฉบับเดิม ที่ห้ามคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองเข้ามามีส่วนครอบงำชี้นำ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ส่วนร่างของพรรคประชาชาติมีประเด็นที่ กล่าวถึงกระบวนการจัดตั้งพรรคการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับประเด็นที่แก้รัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับร่างของพรรคก้าวไกล ที่ตัดอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคการเมือง ตลอดถึงประเด็นเงินบริจาคพรรคการเมือง
“ตั้งข้อสังเกตถึงร่างที่เคยเสนอตั้ง ส.ส.ร. แต่ไม่ผ่าน ผ่านเพียงระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ดังนั้นการแก้ไขครั้งนี้ไม่ได้แก้ไขเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง อย่างน้อยการแก้ไขบัตรเลือกตั้งสองใบก็จะเป็นประโยชน์ให้การเมืองเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่าระบบเลือกตั้งนี้จะลดปัญหาการซื้อเสียง และส่งเสริมให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น จึงเรียกร้องทุกฝ่ายที่มีเป้าหมายตรงกันทำให้การแก้ไขกฎหมายลูกให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมอย่างแท้จริง และลดประเด็นปัญหาที่ทำให้สาธารณะชนเข้าใจว่าท้ายที่สุดนักการเมืองทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการล้มร่างกฎหมายลูกบางร่างก็เป็นความเห็นของแต่ละคน แต่ตอนนี้หลักการทั่วไปเห็นว่าทุกร่างมีความสำคัญทั้งหมด แต่ต้องฟังการอภิปรายให้มีความชัดเจน ก่อนจะไปแก้ไขกันในชั้นกรรมาธิการ ที่ต้องดำเนินการภายใน 180 วัน”นายชินวรณ์ กล่าว
