วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกHighlight“ชินวรณ์”เชื่อสูตรส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 500 ฟื้นกระบวนการ“แตกแบงค์พัน”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ชินวรณ์”เชื่อสูตรส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 500 ฟื้นกระบวนการ“แตกแบงค์พัน”

“ชินวรณ์” เชื่อสูตรหาร 500 หยุดแลนด์สไลด์ “เพื่อไทย” ไม่ได้ ชี้ทำกระบวนการ “แตกแบงค์พัน” กลับมาแนะรอฟังความเห็นกกต.

วันที่ 8 ก.ค. 65 ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางคนลงมติเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 23 ของร่างพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… ตามกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างน้อยที่เสนอให้ใช้สูตรการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 500 ว่า เป็นประเด็นความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งเมื่อรัฐสภามีมติอย่างไรแล้วเราก็ต้องปฏิบัติตามเสียงข้างมาก แต่ก็ต้องเคารพเสียงข้างน้อย เพราะจริงๆแล้วพวกตนที่ยืนยันในหลักการเรื่องการแก้ไขกำหมายรัฐธรรมนูญ เพราะเรารู้ว่าไม่ว่าจะแก้ไขไปทางก็จะต้องดำเนินการตามมาตรา 132 คือต้องส่งเรื่องไปให้องค์กรอิสระ คือคณะกรรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยร่างฉบับนี้เป็นร่างที่กกต.ส่งมายังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งรัฐสภาก็รับร่างครม.เป็นร่างหลัก เพราะฉะนั้นเมื่อให้กกต.กลับไปพิจารณาอีกครั้งก็ต้องติดตามต่อไปว่ากกต.จะแสดงความคิดเห็นอย่างไร จะให้ชอบหรือไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หรือจะขอให้แก้ไขอย่างไรบ้าง จากนั้นจะต้องส่งเรื่องกลับมาที่รัฐสภา เพื่อมีมติให้เป็นไปตามการแก้ไขของกกต.หรือมีมติไม่แก้ไข จากนั้นส่งให้นายกรัฐมนตรี โดยจะนายกฯจะต้องเก็บร่างกฎหมายดังกล่าวไว้ที่นายกฯเป็นเวลา 5 วัน ซึ่งระหว่างนั้นส.ส.หรือส.ว. 1 ใน 10 สามารถเข้าชื่อเพื่อเสนอศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่หากไม่มีคนยื่นเรื่องต้องศาลรัรฐธรรมนูญก็นำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป แต่ถ้ามีคนยื่นเรื่องก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อรอคำวินิจฉัยก่อน

นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือการที่ได้ตัดสินใจทางการเมืองไปในทางใดทางหนึ่งแล้วย่อมมีผลผูกผันต่อไป ตนที่ยืนบนหลักการได้คิดตรงไปตรงมาโดยไม่ยึดเอาผลประโยชน์ของพรรคใด หรืออคติต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทางการเมืองใดๆ ตนเข้าใจว่ากระบวนการแก้ไขบัตรเลือกตั้งสองใบนั้นควรเป็นสองทาง โดยส.ส.เขต 400 เขต ใครได้คะแนนสูงสุดก็ได้ไป ส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อก็เป็นไปตามสัดส่วนโดยตรง แต่เมื่อเอาจำนวนมาคิดแบบสัดส่วนผสมหาร 500 มันก็เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดปัญหาได้ ทั้งในทางสารบัญญัติรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็เป็นห่วงว่าเมื่อเข้าไปถึงขั้นตอนการตีความจะเป็นอย่างไร เนื่องตากจะมีผลทางการเมือง เพราะในทางการเมืองไม่มีใครเป็นเป้านิ่ง ถ้าเราไปวางหลักให้ใช้การหาร 500 ด้วยกระบวนการบางส่วนของสัดส่วนผสมมารวมกันก็จะทำให้เกิดกระบวนการที่เราไม่อยากให้มี คือกระบวนการแตกแบงค์พัน

“แต่วันนี้ถ้าเกิดกรณีแตกแบงค์พันก็มีความชอบธรรม เพราะเราไปแก้กฎหมายให้เขาแตกแบงค์พัน และเข้าใจว่าคนที่คาดหวังว่าจะทำให้เขาไม่ได้รับคะแนนเสียงแลนสไลด์กลับไปทำให้เขามีคะแนนเสียงแบบแลนด์สไลด์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากคะแนนบัญชีรายชื่ออันดับ 1 อันดับ2 อันดับ 3 อาจเป็นพรรคที่สร้างชื่อเสียงของพรรคเองได้สูงลงมาตามลำดับได้ เมื่อใครตัดสินใจอย่างไรก็ต้องรับผิดชอบ”นายชินวรณ์ กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่าการหาร 500 ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับพรรคเพื่อไทย นายชินวรณ์ กล่าวว่า “นั้นสิครับ ผมก็เลยไม่อยากให้การแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญไปเพื่อประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง เราควรแก้บนหลักการว่าการที่เราใช้ระบบบัตรเลือกตั้งสองใบ เพราะต้องการให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งขึ้นลดอิทธิพลการซื้อเสียงลง ตัดประเด็นเรื่องการปัดเศษ และการแตกแบงค์พันที่เคยมีมาแล้วออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่บิดเบี้ยวในกระบวนการทางการเมือง แต่เมื่อกลับไปสู่จุดนั้นอีก พรรคการเมืองก็มีสิทธิ์ที่จะแตกแบงค์พันได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องแลนด์สไลด์ที่กลัวกันได้ ผมยืนยันว่ากระบวนการในการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือกระบวนการทางการเมืองใดก็แล้วแต่ กระบวนการที่ตรงไปตรงมาและยึดหลักนิติธรรม เป็นกระบวนการที่ดีที่สุด”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img