“ธีรัจชัย” ซัดกลับใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวอาเปรียบ ชี้ไม่ได้แก้ง่ายเหมือนซ้ายหัน ขวาหัน ไม่ได้คิดสร้างกติกาให้เกิดความเป็นธรรม
วันที่ 28 ก.ค.65 นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่. …) พ.ศ. … กล่าวถึงกระแสข่าวเตรียมเสนอแก้รัฐธรรมนูญกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวว่า คงอยากจะเอาเปรียบในการเลือกตั้งของฝ่ายผู้มีอำนาจ แต่ไม่ได้คิดที่จะทำกติกาเลือกตั้งให้เป็นธรรม ซึ่งตอนแรกเริ่มเปลี่ยนจากบัตรเลือกตั้งใบเดียว เพื่อมาเป็นบัตร 2 ใบ และใช้สูตรคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 100 คือไม่ต้องการให้พรรคขนาดกลางเติบโต หรืออาจจะกลัวพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งมาก แต่เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ เป็น ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ก็กลัวพรรคฝ่ายค้านอีกพรรคหนึ่งที่อาจจะใหญ่มากขึ้น และพรรครัฐบาลก็แตกออกไปเป็นพรรคขนาดกลาง ก็กลัวว่าจะสู้ไม่ได้ในการเลือกตั้ง จึงเปลี่ยนมาเป็นหาร 500 เพื่อให้พรรคขนาดกลางของรัฐบาลจะอยู่ได้
“แต่ช่วงหลังไม่ทราบว่าคิดอย่างไรอยากจะกลับมาเปลี่ยนเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียว กรณีอย่างนี้ไม่ได้เกิดจากการต้องการวางกติกาให้เป็นธรรม เพื่อระบอบประชาธิปไตยเลย ความคิดแบบนี้ ถึงแม้ว่าตัวเองจะมีเสียงข้างมากในรัฐสภา ผมเชื่อว่าอาจจะมีหลายท่านทั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หรือแม้แต่ ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลเอง อาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ เพราะไม่ง่ายเหมือนกับการสั่งซ้ายหัน ขวาหัน”นายธีรัจชัย กล่าว
เมื่อถามว่า บัตรใบเดียวมีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ นายธีรัจชัยกล่าวว่า มีโอกาส แต่จะสำเร็จหรือไม่นั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่หลังจากที่มีกระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นก็มีเสียงต้านในฝั่งพรรครัฐบาลพอสมควร แต่เราไม่อยากให้ทำอะไรกลับไปกลับมาแบบนี้อยู่แล้ว อยากให้วางกติกาที่ยุติธรรมจริงๆ ซึ่งการที่จะมาเอาเปรียบอย่างเดียว เป็นเรื่องที่ไม่ดีกับประเทศชาติในระยะยาว เพราะเสียงข้างมากอยู่ที่ ส.ว. กับฝ่ายรัฐบาล ซึ่งการแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หรือแม้กระทั่งตัวรัฐธรรมนูญเอง เขาจะโหวตไปทางความต้องการของรัฐบาลทุกครั้ง ยังไม่มีครั้งไหนแตกต่าง ซึ่งอาจจะมีเสียงเพียงเล็กน้อย ถ้า 3 ป. เห็นว่าจะทำ ก็อาจจะใช้วิธีเดิม คือ ซ้ายหัน ขวาหัน ซึ่งเดิมเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีตรรกะ
“พรรค ก.ก.พร้อมสู้ทุกกติกา ไม่ว่าจะเป็นบัตรใบเดียวหรือบัตร 2 ใบ เพราะเราไม่ต้องการจะเป็นพรรคขนาดกลางตลอดเวลา โดยเราต้องการเป็นพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง และเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่ต้องการไปบริหารประเทศ เราจึงต้องตั้งเป้าเพื่อจะเอาชนะทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงไม่ได้กังวลใจอะไร และเราปรับองคาพยพในการเขาสู่สนามเลือกตั้งแบบ กล้าสู้ ทุกกติกาอยู่แล้ว”นายธีรัจชัย กล่าว
