วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSสัญญาณเลือกตั้งแรง ‘ทหาร’เตรียมพร้อม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สัญญาณเลือกตั้งแรง ‘ทหาร’เตรียมพร้อม

จากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกรพทบจากน้ำท่วม งานนี้ “ทหาร” ตบเท้า ขนอุปกรณ์ ลุยน้ำช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ด้านฝ่ายค้านเดินหน้าด้อยค่ารัฐบาลบริหารงานผิดพลาด

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https: // thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่  2 ต.ค. 64 สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด นอกจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 แล้ว เห็นจะเป็นเรื่องของการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุ “เตี้ยนหมู่” และจะมีพายุลูกใหม่เข้ามาอีก 

@@@……. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่รอช้าได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์สภาพอากาศ พร้อมทั้งระดมเครื่องมือช่างและกระจายกำลังลงไปสนับสนุนช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ที่เกิดขึ้นวงกว้างในพื้นที่ 27 จังหวัด ให้ทั่วถึงและครอบคลุมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 58,900 ครัวเรือน โดยให้จัดอากาศยานไร้คนขับบินสำรวจพื้นที่ประสบอุทกภัยและสนับสนุนทำหน้าที่ร่วมกับจังหวัดและอำเภอ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและต่อเนื่องไปถึงการฟื้นฟู เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว

@@@…….ขณะเดียวกัน ทุกเหล่าทัพได้จัดกำลังพล ยานพาหนะ เครื่องมือช่างและยุทโธปกรณ์ กระจายลงพื้นที่ ไปช่วยบรรจุกระสอบทรายทำแนวพนังกั้นน้ำป้องกันพื้นที่ การสนับสนุนเรือผลักดันน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ร่วมกับการขุดลอกคูคลองกำจัดสิ่งกีดขวางและเปิดเส้นทางระบายน้ำ การนำสะพานเครื่องหนุนมั่นติดตั้งเชื่อมต่อเส้นทางที่ถูกตัดขาด การเปิดเส้นทางที่ดินโคลนถล่ม การตัดกิ่งไม้และขนย้ายซากปรักหักพังกีดขวางเส้นทางจราจร การจัดยานพาหนะอำนวยความสะดวกประชาชนในการสัญจร รวมทั้งการช่วยทำสะอาดพื้นที่สาธารณะและซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ หากยังมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนได้ในทุกหน่วยทหารในพื้นที่

@@@…….ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) ได้เดินทางไปตรวจ ติดตาม สถานการณ์น้ำ ณ ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน (สามเสน) และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั่วทุกภาค ผ่านระบบ vdo conference ในการแก้ปัญหาน้ำ อันเนื่องมาจาก อิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ในหลายพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในพื้นที่หลายจังหวัด

@@@…….พล.อ.ประวิตร ได้รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวม จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ เกี่ยวกับสถาน การณ์ด้านอุตุนิยมวิทยา และติดตามพายุ “เตี้ยนหมู่” ที่มีผลกระทบในปัจจุบัน และแนวโน้มที่อาจเกิดพายุระลอกใหม่ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยได้กำชับ กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งระบายน้ำ เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนโดยเร็ว นอกจากนั้น กรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ ยังได้รายงานสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยา และอาจเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ รวมทั้งได้รับทราบการเตรียมความพร้อมของ กทม.ในการรับมือ และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กทม. และปริมณฑล กรณี มีน้ำทะเลหนุนสูงด้วย

@@@…….กองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เรียกประชุมด้วยระบบออนไลน์กับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทุกกองทัพภาคเพื่อติดตามประเมินสถานการณ์อุทกภัย และการช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้การสนับสนุนเพิ่มเติมจากกองทัพบกส่วนกลางไปยังพื้นที่ประสบภัย โดยเฉพาะการระดมทรัพยากร และยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกเพื่อใช้ในการบรรเทาสาธารณภัย และช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มศักยภาพอย่างทันท่วงที โดย ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้ทุกกองทัพภาคประสานงานร่วมกับทุกภาคส่วน เตรียมแผนรับมืออุทกภัยไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เพราะประเมินว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มมากขึ้นไปจนถึงเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งการเตรียมการที่รัดกุม ทันต่อสถานการณ์ จะทำให้การดูแลประชาชนของกองทัพบกเป็นไปอย่างทั่วถึง และตรงตามนโยบายของรัฐบาล 

@@@…….นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ระดมยุทโธปกรณ์จากหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกทุกหน่วย ที่สามารถนำมาปรับใช้ในการช่วยเหลืออุทกภัยได้ โดยเฉพาะเครื่องมือช่างและยานพาหนะสายขนส่ง มาเพิ่มเติมให้กับหน่วยในพื้นที่น้ำท่วมได้ใช้งาน อาทิ สะพานเครื่องหนุนลอยพับได้แบบ 79A (Ribbon Bridge) จากกรมการทหารช่าง เพื่อจัดตั้งเป็นแพลอยน้ำขนาดใหญ่ เป็นตำบลรวบรวมสิ่งของบรรเทาทุกข์ ในพื้นที่น้ำท่วมสูงเป็นบริเวณกว้าง, การสนับสนุนเรือยนต์ขนาดต่างๆ รวมทั้งเรืออลูมิเนียมพร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย เข้าเสริมการขนย้ายคนและสิ่งของให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น, การนำตาข่ายกู้ภัย (Rescue platform) มาใช้ในการส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อความปลอดภัยของผู้รับ, การสนับสนุนอากาศยานเพื่อขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปส่งให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมสูงเข้าถึงยาก และการปรับใช้เรือเร็วเพื่อการขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน เป็นต้น 

@@@……กองทัพเรือ….พล.ร.ต. สรายุทธิ์ ทับเทศ ผู้อำนวยการอู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนเรือผลักดันน้ำ จำนวน 20 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่จากอู่ทหารเรือธนบุรี เพื่อลำเลียงไปปฏิบัติภารกิจในการผลักดันน้ำในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ตามที่ได้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมขังจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 2564 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าปริมาณน้ำที่ไหลผ่านประตูระบายน้ำโพธิ์พระยาเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำ คลอง ล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองและบริเวณที่ลุ่มต่ำของอำเภอสองพี่น้อง รวมถึงท่วมขังเส้นทางสัญจร ทำให้ประชาชนในพื้นที่ ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก 

@@@……สำหรับ เรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือนั้น ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำหลาก มาตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งแนวความคิดนี้ ปัจจุบันกรมชลประทานได้นำไปดัดแปลงระบบ เพื่อใช้แก้ไขปัญหาระบบน้ำทั่วประเทศ และจากองค์ความรู้ ในการสร้างเรือผลักดันน้ำ ทำให้กองทัพเรือสามารถสร้างเรือผลักดันน้ำขึ้นใหม่เพื่อให้ทันต่อการนำไปใช้ในพื้นที่ประสบอุทกภัยในปี 2554 ทั้งยังสนองต่อพระราชดำริแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการนำอุปกรณ์เครื่องยนต์ที่มีอยู่เดิมมาผลิตและพัฒนาขึ้นใหม่เป็น 3 ขนาด คือขนาด 320 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 150,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ขนาด 220 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 100,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน และขนาด 120 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 30,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน เรือผลักดันน้ำนับว่าเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ครั้งละปริมาณมาก อีกทั้งยังสามารถชะล้างไล่ดินเลนที่ตกตะกอนอยู่ก้นแอ่งให้หมดไป ทำให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่ง เป็นบึงและคอขวด เนื่องจากเป็นที่ลุ่มระบายน้ำออกได้ลำบากและไหลได้ไม่เร็ว

@@@……กองทัพอากาศ….นาวาอากาศเอก ภาณุวัตร เรืองประยูร ผู้บังคับการกองบิน 46 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 46 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านวังประดู่ ตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นำกำลังพลออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และซ่อมแซมแนวคันดินกั้นน้ำ ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง เพื่อชะลอน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรม และบ้านเรือนพี่น้องประชาชน ขณะที่ กองบิน 4 โดย นาวาอากาศเอก เนาวมรัตน์  ประพัฒน์ทอง ผู้บังคับการกองบิน 4 สั่งการให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 4 จัดกำลังพล จำนวน 120 คน รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ 3 คัน และเรือท้องแบนจำนวน 4 ลำ ให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท โดยได้ก่อกระสอบทรายเพื่อทำคันกั้นน้ำ 


@@@……กองบิน 1 นาวาอากาศเอก เจริญ วัฒนศรีมงคล ผู้บังคับการกองบิน 1 ให้การสนับสนุนกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผล กระทบจากพายุ โดยนำรถบรรทุกยกสูง และเรือท้องแบนอำนวยสะดวกให้แก่ประชาชนในการสัญจรเข้า-ออกหมู่บ้าน และช่วยขนย้ายสิ่งของ จากบริเวณที่มีน้ำท่วมสูง ซึ่งถูกตัดขาดจากภายนอก ขึ้นสู่พื้นที่ปลอดภัย รวมถึงการสนับสนุนยานพาหนะต่าง ๆ ให้กับหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อลำเลียงอาหารและน้ำดื่ม แจกจ่ายประชาชนผู้ประสบภัย ณ บ้านลำเชิงไกร หมู่ 9 ตำบลโคกสูง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 

@@@……ขณะที่บ้านเมืองกำลังเผชิญกับภัยธรรมชาติจากพายุโซนร้อน ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น ฝ่ายความมั่นคงพบว่า พรรคฝ่ายค้านได้หยิบยกสถานการณ์น้ําท่วมมาเป็นประเด็นใช้กล่าวโจมตีด้อยค่ารัฐบาล โดยพยายามชี้นําให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดว่าปัญหาดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของนายกรัฐมนตรี เพื่อหวังให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังรัฐบาล โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ควบคู่กับการสร้างความนิยมให้กับฝ่ายตนเอง ด้วยการกล่าวอ้างถึงผลสําเร็จในการแก้ไขปัญหา หากได้รับการจัดตั้งเป็นรัฐบาลในอนาคต


@@@……ส่วนการจัดกิจกรรมชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า บริเวณแยกนางเลิ้ง แสดงให้เห็นถึงความพยายามของแกนนําที่ต้องการขยายความรุนแรง เพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรี ลาออก เช่นเดียวกับกลุ่มทะลุแก๊ซ และแนวร่วมที่ยังคงก่อเหตุยั่วยุอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการที่มีผู้ถูกจับกุมดําเนินคดี เชื่อว่าจะสร้างความโกรธแค้นให้กับผู้ชุมนุมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะก่อเหตุรุนแรงมากขึ้น เพื่อตอบโต้การบังคับใช้กฎหมายของฝ่ายเจ้าหน้าที่รักษาความสงบ

@@@……การกระจายกันลงพื้นที่ประสบภัยฝ่ายบริหารของภาครัฐ รวมทั้งเอกชน และมูลนิธิฯ เพื่อเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัย ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมในพื้นที่อย่างพร้อมพรึบ โดยเฉพาะนำโดยหัวหน้าฝ่ายบริหารสูงสุดของรัฐบาล อาจดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในความเป็นจริง นี่ถือเป็นเรื่องในความรับผิดผิดชอบโดยตรงที่ไม่ลงไปดูพื้นที่พบปะประชาชนเชิงประจักษ์นั้นไม่ได้ นอกจากจะให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัย และเป็นการระดมนำความช่วยเหลือ การเยียวยาจากทุกภาคส่วนไปให้ถึงพี่น้องประชาชนแล้ว ยังเป็นการให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานช่วยเหลือและกู้ภัยในพื้นที่ให้สามารถทำงานได้เกินขีดจำกัดของร่างกายและจิตใจ ซึ่งประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติโดยตรง 

@@@……การด้อยค่าการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล และฝ่ายบริหาร โดยฝ่ายการเมืองอีกฟาก แม้ว่าจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งล้มรัฐบาลให้ได้นั้น ก็ยังต้องระมัดระวัง เนื่องจากการบิดเบือนข่าวสารมากเกินไปอาจส่งผลตรงข้าม กลายเป็นไปสร้างความนิยมให้ภาครัฐ ซึ่งภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองที่สัญญาณเตรียมการเลือกตั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างแรงมากนั้น อาจไม่เป็นผลดี ทำให้กลุ่มที่ไม่หวังดีต่อชาติที่มุ่งล้มรัฐ ล้มสถาบัน ได้ชะลอการดำเนินกิจกรรมลง 

@@@……การยื่นฟ้องรัฐบาลในประเด็นบริหารงานล้มเหลว ก็ดูเลื่อนลอยพิสูจน์อะไรไม่ได้ ตราบใดที่ผ่านมารัฐบาลได้พิจารณาตัดสินตกลงใจภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฏหมาย รวมทั้ง สถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ที่เริ่มคลี่คลาย ประชาชนในอย่างน้อย 11 จังหวัดได้รับวัคซีนเกิน 50% แล้ว หรือในกรณีหวังจะคว่ำรัฐบาลในช่วงการโหวต พ.ร.บ.ขยายเพดานเงินกู้แตะระดับ 70% GDP ก็เช่นกันนั้น การเมืองฝ่ายค้านในรัฐสภาฯ เองก็ยังต้องชั่งใจให้มากเนื่องจากทุกคนก็ทราบดีว่ามันหมายถึง GDP ที่เพิ่มขึ้น 0.5 – 1 % อันจะเกิดประโยชน์ต่อการเยียวยา และการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งเป็นความต้องการของกลุ่มธุรกิจพวกพ้องอีกด้วย 

อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย / cr @pwechayachai

@@@……ทั้งศึกแย่งชิงชิงกระแสความนิยมของประชาชนเพื่อเตรียมเลือกตั้งในช่วงนี้ ดูเสมือนการเมืองฟากฝั่งรัฐบาลจะมีเปรียบ และหากต้องรอออกไปจนเมื่อการประชุม APEC เริ่มขึ้นในปลายปี อาจกลายเป็นรัฐบาลชุด  ปัจจุบันได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ซึ่งไม่เป็นผลดีสำหรับการเมืองฝ่ายค้านต่อการเลือกตั้ง ไม่ว่าการเลือกตั้งรอบต่อไปจะเกิดขึ้นหรือไม่ หรือจะเกิดขึ้นปลายปี กลางปีหน้า หรือเมื่อไรก็ตาม ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ทางการเมืองต่อเนื่องต่อไป และหวังให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ความแตกแยกในสังคมไม่ใช่เรื่องดีต่อประเทศ การร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ที่มีเป้าหมายเพื่อประเทศชาติ คือ หัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤติต่าง ๆ และสามารถเดินหน้าต่อไปได้.

 ………………………

 คอลัมน์ “Military Key”

 โดย “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img