วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกHighlightพิษรัสเซีย-ยูเครน ดันราคาเหล็กแพง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

พิษรัสเซีย-ยูเครน ดันราคาเหล็กแพง

“ประวิทย์” เผยปมขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนหนุนราคาเหล็กแพง กระทบต่อการลงทุนภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว ฉุดปริมาณการบริโภคลดลง 17.8%

นายประวิทย์ หอรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทมิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2565 อุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้เกิดความผันผวนของราคาวัตถุดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลง ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน หลังจากที่สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย

ทั้งนี้จากข้อมูลของสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 ประเทศไทยมีปริมาณการบริโภคเหล็กสำเร็จรูปรวมทั้งสิ้น 4.04 ล้านตันลดลง 17.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นการบริโภคเหล็กทรงยาวอยู่ที่ 1.57 ล้านตันลดลง 19.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และการบริโภคเหล็กทรงแบนอยู่ที่ 2.47 ล้านตัน ลดลง 16.6%เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ดีผลประกอบการไตรมาส 1/2565 ของกลุ่มมิลล์คอนฯ มีกำไรเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งหัวใจสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่งนอกเหนือจากอานิสงส์ราคาเหล็กในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น และยังเป็นผลมาจากการบริหารจัดการภายในองค์กร โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่มตามแผนยุทธศาสตร์หลักให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้บริษัทไปสู่เป้าหมายใหญ่คือการเป็น Green Steel

“กระบวนการดำเนินธุรกิจแบบ Circular Economy คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ MILL เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เราใช้พลังงานที่ผลิตได้เองภายในกลุ่ม สามารถนำของเสียมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ส่งผลให้เราสามารถบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายประวิทย์กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img