“ครอบครัวเพื่อไทย” จัดกิจกรรม “ระดมพลคนเจียงฮาย เพื่อไทยมาเหนือสุด” ย้ำจุดยืนเคารพอำนาจประชาชน เพื่อร่วมนำพาประเทศ พ้นจากอำนาจไม่ชอบธรรมและการบริหารไร้ศักยภาพ
เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เปิดเผยว่า ครอบครัวเพื่อไทยลงพื้นที่พบปะประสานสร้างช่องทางสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ และเครือข่ายมวลชนต่างๆ หลายกลุ่มมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนเวทีใหญ่ยังคงเดินหน้าตามปกติ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ซึ่งเราจะมีเวทีครอบครัวเพื่อไทยอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และเวทีย่อย คนเสื้อแดง และรุ่นใหม่ควบคู่กันไปด้วย
โดยในวันที่ 7 สิงหาคม เราจะตั้งเวทีพบปะพี่น้องชาวจ.เชียงราย และจังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือ โดยครอบครัวเพื่อไทยสัญจรในครั้งนี้มีชื่อว่า “ระดมพลคนเจียงฮาย เพื่อไทยมาเหนือสุด” เริ่มต้นในเวลา 09.30 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS เชียงราย นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคพท., น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รวมทั้งแกนนำพรรคชุดใหญ่ ทั้ง ส.ส. ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั้งแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อของจ.เชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมคณะเพื่อพบปะพี่น้องประชาชนด้วย
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้จะมีทั้งการปราศรัย แนะนำตัว เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. และส.ส.บัญชีรายชื่อ จ.เชียงราย และจัดแสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน ผสมผสานดนตรีและการแสดงสมัยใหม่ พร้อมส่งเสริมพัฒนาค้าชายแดน แนวคิดยกระดับการท่องเที่ยว และเป็นเมืองแฝดเชียงรายเชียงใหม่ สะท้อนสภาพปัญหาความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติด หนี้นอกระบบ ชาติพันธุ์ และปัญหาอื่นๆ ที่กระทบความเป็นอยู่พี่น้องภาคเหนือ โดยเฉพาะจ.เชียงราย ผ่านส.ส.และว่าที่ผู้สมัครของพรรค
จากนั้นน.ส.แพทองธาร จะสรุปแนวทางที่จะแก้ปัญหาแต่ละเรื่องแต่ละอย่าง ก่อนที่นพ.ชลน่าน ยืนยันกับประชาชนว่าพรรคเพื่อไทยเข้าใจทุกปัญหา พร้อมใช้ความรู้ความสามารถ และความสำเร็จที่ผ่านมา เพื่อพาประชาชนพ้นวิกฤตเศรษฐกิจไปให้ได้
“กิจกรรมดังกล่าวจบลงในเวลาประมาณ 12.00 น. และถ่ายทอดสดผ่านยูทูปและเฟซบุ๊กพรรคพท. จากนั้นภาคบ่ายจะเป็นการพบปะพี่น้องประชาชนของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและคณะ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งนอกจากพรรคเพื่อไทยจะต้องแลนด์สไลด์แล้ว ต้องมาให้เหนือกลเกมกติกาที่ความพยายามเอารัดเอาเปรียบจากฝ่ายผู้มีอำนาจ ภายใต้หลักการและจุดยืนเคารพอำนาจประชาชน เพื่อร่วมนำพาประเทศ พ้นจากอำนาจไม่ชอบธรรมและการบริหารไร้ศักยภาพและอนาคตที่ดีกว่าในการเลือกตั้ง” ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยระบุ
