วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSทันมั๊ย!! เร่งเปลี่ยนประเทศ ฝ่ากระแสโควิด-โลกยุคใหม่
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ทันมั๊ย!! เร่งเปลี่ยนประเทศ ฝ่ากระแสโควิด-โลกยุคใหม่

ด้วย…โครงสร้างทางเศรษฐกิจไทย ที่พึ่งพิงรายได้จากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทั้งจากการส่งออกและบริการ ทั้งรายได้จากการนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงรายได้จากการลงทุนของต่างชาติ จึงทำให้ทุกวันนี้ “คนไทย” ทั้งประเทศต้องซวนเซ จากภาวะโลกดิ่งเหว

ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศยังไม่เข้มแข็งพอ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม และส่วนใหญ่เป็นการทำเกษตรกรรมแบบเดิมที่พึ่งพิงเทวดาเป็นสำคัญ แม้ไทยจะนำหน้าเพื่อนบ้านด้วยทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการเป็น “ครัวโลก” ก็ตาม

แต่สุดท้ายเมื่อโลกสะเทือน!! ไทยก็ต้องสะเทือนตามไปด้วย จึงกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่รัฐบาลของ “บิ๊กตู่” ไม่ว่าจะตู่ 1 หรือตู่ 2 ก็ต้องหาทางสรรค์สร้างให้เศรษฐกิจในประเทศเข้มแข็ง หรือรองรับกับวิกฤติที่เกิดขึ้น

มาตรการคนละครึ่ง เฟสที่สอง ที่กำลังรอให้ครม.ไฟเขียวในสัปดาห์หน้า หรือวันที่ 8 ธ.ค. นี้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการต่อเนื่อง ที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” สามารถซื้อใจประคองความนิยมชมชอบของประชาชนคนไทยในระดับฐานรากเอาไว้ได้บ้าง

เพราะเศรษฐกิจที่ยังไม่สามารถผงกหัวได้อย่างเต็มที่ การหามาตรการ การสร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปีให้เกิดขึ้น จะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจเกิดการหมุน เหมือนโฆษณามาตรการของรัฐบาลในช่วงหนึ่งที่ติดหูว่า “เงินกำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป”

หลายคนจากหลายฝ่าย ทั้งชาวบ้านประชาชน นักวิชาการ ภาคเอกชน ต่างออกมาสนับสนุนมาตรการคนละครึ่งกันอย่างเต็มที่ เพราะสามารถพิสูจน์และเห็นความชัดเจนได้ว่า ได้สร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยให้คึกคัก อย่างแท้จริง และที่สำคัญ คือคนระดับชั้นกลางถึงรากแก้วนั้นได้ประโยชน์แท้จริง

โครงการคนละครึ่ง

แม้รัฐบาลต้องควักเนื้อกันบ้าง จากพ.ร.ก.กู้เงินฯ 1 ล้านล้านบาท ในเฟสแรกประมาณ 30,000 ล้านบาท และในเฟสสองอีกประมาณ 22,500 ล้านบาท แต่หากคิดวงเงินดีดลูกคิดกันให้ถ้วนถี่แล้ว จะมีเงินเข้าสู่ระบบ ถึง 1 แสนล้านบาท ไปจนถึง 31 มี.ค.64

นั่น!!เป็นเพียงเงินที่หมุนเศรษฐกิจในรอบแรกเท่านั้น แต่เงินที่เข้าสู่ระบบยังส่งต่อไปยังภาคอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งไปทำให้เศรษฐกิจหมุนต่อได้ในรอบสอง รอบสาม อย่างต่อเนื่อง ก็จะมีเงินไหลเข้าสู่ระบบมากกว่า 1 แสนล้านบาทแน่นอน

เมื่อมีเงินเข้าสู่ระบบต่อเนื่อง ก็เท่ากับว่า…เศรษฐกิจในประเทศจะมี “พลัง” เพิ่มมากขึ้น แม้ไม่แข็งแกร่งเท่ากับรายได้ที่มาจากการส่งออกและการท่องเที่ยวก็ตาม แต่ก็เป็นการสร้างป้อมปราการจากภายในไม่ให้พังทลายลงไปมากกว่านี้อีก

เป็นที่คาดการณ์กันอยู่แล้วว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยจะติดลบประมาณ 6% ซึ่งก็ดีกว่าก่อนหน้านี้ว่าอาจไหลลึกกันไปถึงติดลบ 7.5% บางสำนักให้ติดลบมากถึง 10% กันทีเดียว จากพิษของไวรัสร้ายโควิด-19 แต่ท้ายที่สุด!! ประเทศไทยก็สามารถก้าวผ่านจุดต่ำสุดไปได้แล้ว

ปัญหาอยู่ที่ว่า… เวลาของการฟื้นตัว จะพุ่งพรวดกระโดดให้เห็นอย่างที่เคยเป็นกันหรือเปล่า หรือต้องใช้เวลานานเพียงใด หลายกูรูมองไปในทิศทางเดียวกันว่าจะเป็นแบบ “ไนกี้ เชป” ที่การฟื้นตัวต้องใช้เวลานานหน่อยกว่าจะไต่ระดับให้เท่าเดิม

cr/https://www.nwm.com

นั่นหมายความว่า…ในช่วงของการฟื้นตัวที่ต้องอาศัยระยะเวลา เป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่รัฐบาลต้องเขย่า ต้องปรับตัวต้องปรับโครงสร้างประเทศเพื่อให้รองรับอนาคตที่ไม่เหมือนเดิมให้ได้

จึงไม่ใช่เรื่องแปลก!! ที่ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของ “ลุงตู่” จึงต้องมอบหมายงานให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวให้ได้ภายใน 12-18 เดือน เป็นอย่างน้อย

ที่สำคัญยังวางเป้าหมายให้ปี 64 ที่กำลังจะมาถึงในอีก 20 กว่าวันข้างหน้า ต้องเป็นปีแห่งการเตรียมตัว เพื่อปรับเปลี่ยนประเทศไทยให้รองรับ “อนาคตใหม่” ให้ได้ ไม่ใช่ว่า ทำอะไรลงไปแล้ว ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เคยพึ่งพิงนักท่องเที่ยวจำนวน 40 ล้านคน ที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวเฉลี่ยคนละ 50,000 บาท อย่างไรก็อย่างนั้น

เคยพึ่งพิงรายได้จากการส่งออกดาวเด่น ทั้ง สินค้ายานยนต์ สินค้าปิโตรเคมี สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน  ในตลาดยุโรป สหรัฐ อาเซียน อย่างไรก็อย่างนั้น หากถึงเวลาถูกมรสุมกระหน่ำ ก็จะรองรับอะไรไม่ได้ ต้องพบกับภาวะที่มืดมน เหมือนที่เกิดขึ้นจากพิษของโควิด-19 เช่นนี้อีก

cr / https://www.nstda.or.th/th/

ขณะเดียวกันก็อย่าลืมว่า โควิด19 มาแล้ว การระบาดรอบสอง รอบสาม ก็ตามมาแล้ว คนทั่วโลกติดเชื้อไปกว่า 64 ล้านคน ต้องเสียชีวิต ไปมากกว่า 1.4 ล้านคน แล้ว แม้ความสำเร็จของการผลิตวัคซีนป้องกันจะมีทุกวันเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า วัคซีนจะใช้ได้ทันที

ส่วนปัจจัยอื่นที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ อย่างปัญหาการเมืองในประเทศ แม้ต่างชาติ…ต่างภาษา จะเคยชิน แต่การไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดจะยุติเมื่อใด? ก็กลายเป็นคำถามคาใจไม่น้อยเช่นกัน หากที่อื่น คลีนกว่า ใสกว่า สว่างกว่า ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเป็นแมก-เน็ท ดึงดูดใจมากกว่า

ทั้งหลาย!!ทั้งปวง!! เป็นเพียงความคิด เป็นเพียงการสร้างแรงดึงดูด แต่สุดท้าย…ก็คงต้องมาดูข้อเท็จจริง ว่าการเตรียมตัวรับมือตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่นนี้ สุดท้ายแล้วปลายทางจะจบลงอย่างไร?

………………………………

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo



- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img