รัฐบาลเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดโควิดถึงขั้นวิกฤต ลุยจัดการ “ข่าวปลอม” ที่สร้างความสับสนให้กับประชาชน ขณะที่กองทัพช่วยเหลือประชาชนทุกรูปแบบ
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https: //thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 31 ก.ค.64 เวลานี้รัฐบาลยังคงเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก และยังเผชิญกับปัญหา “ข่าวปลอม” หรือ “เฟสนิวส์” ให้รัฐบาลแก้ปัญหารายวัน จนประชาชนสับสนไม่รู้อันไหน “ข่าวจริง” หรือ “ข่าวปลอม” พอแชร์ต่อไปก็มีความผิดโทษตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ
@@@…….เรื่องการจัดการ “ข่าวปลอม” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า การจัดการเรื่องข่าวปลอม ขณะที่เรากำลังเผชิญกับปัญหาโควิด และหน่วยงานรัฐกำลังแก้ไขสถานการณ์กันอย่างเต็มที่ แต่เรากลับต้องเผชิญกับปัญหาข่าวปลอม หรือ Fake News ที่กำลังกลายเป็นปัญหาสำคัญ ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในสังคมเป็นอย่างมาก มีการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือการจงใจตัดต่อบิดเบือนคำพูดเพื่อสร้างความเข้าใจผิดเป็นจำนวนมากทั้งจากสื่อมวลชน ผู้มีชื่อเสียง และผู้ใช้สื่อทั่วไป ทั้งที่ในขณะนี้ประเทศไทยอยู่ภายใต้ พรก.ฉุกเฉิน
@@@…….ผมขอเรียนให้ทราบว่า ผมให้ความสำคัญกับการจัดการข่าวปลอมที่ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างยิ่ง และได้สั่งการโดยตรงให้แต่ละกระทรวง ดำเนินการแก้ปัญหาข่าวปลอมอย่างจริงจังและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดังนี้ ขอให้แต่ละกระทรวง จัดตั้งฝ่ายที่รับผิดชอบในการตรวจสอบและแก้ไขข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับแต่ละกระทรวงทันที และให้เป็นตัวแทนหน่วยงานแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดด้วย ให้กรมประชาสัมพันธ์ โฆษกทุกกระทรวง และกสทช. สื่อสารให้ทุกหน่วยงานและประชาชนได้รับทราบถึงมาตรการนี้อย่างทั่วถึง เป็นต้น โดยข้อสั่งการทั้งหมดนี้ ผมจะติดตามการดำเนินการอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด และขอให้รายงานความคืบหน้าต่อผมก่อนการประชุม ครม. ครั้งหน้า และรายงานต่อเนื่องก่อนการประชุม ครม. ทุกครั้ง
@@@…….อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง ตั้งข้อสังเกตว่า หากมองกันให้ชัด ๆ แบบไม่ลำเอียง มีประเทศไหนในโลกทำแบบนี้บ้าง ให้บุคลากรทางการแพทย์, ทหาร, อาสาสมัคร ปูพรมฉีดวัคซีนให้คนแก่, ผู้ป่วยติดเตียงตามชุมชนแออัด ที่เข้าไม่ถึงแอปหมอพร้อม หรือแอปอื่น ๆ และยังมีของกิน ของใช้ไปแจกให้อีก ข่าวแบบนี้ไม่ค่อยเป็นไวรัล ไม่มีสื่อไหนนำเสนอ เพราะเรตติ้งไม่ดี ขายข่าวไม่ได้ คนไทยส่วนใหญ่ชอบเสพข่าวดราม่า เรื่องที่นายกรัฐมนตรีมีมาตรการจัดการกับ “ข่าวปลอม” 6 องค์กรสื่อ ต้องเข้าใจจุดยืนภาครัฐให้ถูกต้องด้วย เพราะภาครัฐก็ต้องการให้องค์กรสื่อช่วยจำกัด Fake News เพื่อให้สังคมสื่อออนไลน์ สะอาดสีเขียวมากกว่านี้
@@@……ทั้งนี้ ภาครัฐ ไม่ได้ปิดกั้นเสรีภาพสื่อ และประชาชน แต่อย่างไร เป้าหมายคือ Fake News และการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร จะต้องลดลงในสังคม รวมทั้งมุ่งให้สังคมออนไลน์ สะอาดขึ้นต่างหาก เพราะ Fake News กลายเป็นอุปสรรคการบริหารภาครัฐที่สร้างความเสียหายแก่บ้านเมือง จึงต้องการความช่วยเหลือจาก 6 องค์กรสื่อด้วย .. แต่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยอคติที่น่าเสียใจ
@@@…….การปรับกระบวนทำงานเพื่อจัดการกับ Fake News นั้น แต่เดิมรวมการควบคุม และรวมการปฏิบัติไว้ในระดับ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นระดับสูงมาก ซึ่งพบว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากธรรมชาติในสังคมสื่อออนไลน์อยู่ในรูปแบบกระจายแยกย่อย จึงพิจารณาปรับกระบวนการทำงานใหม่ให้เป็นเป็นรูปแบบกระจายการควบคุมและกระจายการปฏิบัติลงไปในระดับผู้ปฏิบัติที่รอบรู้ในแต่ละสายเฉพาะ ซึ่งน่าจะได้ผลดีกว่า ด้วยการใช้มาตรการ Hard Power และ Soft Power ไปสู่แนวทางที่ฉลาดกว่า Smart Power เน้นการประชาสัมพันธ์เชิงรุกที่สร้างสรรค์เป็นหลัก มิได้มุ่งใช้กฏหมายเพื่อเล่นงานใครในทางการเมือง หรือผู้เห็นต่างแต่อย่างไร
@@@…สำหรับภาครัฐ ยังคงต้องการข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลาจากทุกภาคส่วน ไม่เคยคิดจะปิดกั้นเสรีภาพทางความคิดของสื่อมวลชน และประชาชน อีกทั้งมุ่งแสวงความร่วมแรงร่วมใจ และความสามัคคีให้เกิดขึ้นภายในชาติ เพื่อร่วมกันฝ่าฟันวิกฤติการระบาดของโควิด-19 ให้ผ่านพ้นไปให้ได้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังนั่นเอง และประเทศชาติ จะต้องยังคงเดินหน้าต่อไปได้ด้วยดีในทุก ๆ ด้าน
@@@…….กลับมาที่ภารกิจของทหารกันบ้าง….พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด/หน.ศปม. ได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ศปม. เดินทางไปตรวจเยี่ยมด่านตรวจเข้มแข็งรอยต่อพื้นที่สีแดงและสีแดงเข้มในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อติดตามการปฏิบัติหน้าที่ และรับทราบปัญหาข้อขัดข้องจากการปฏิบัติงานของฝ่ายความมั่นคง พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ได้ปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท เสียสละอย่างเต็มกำลังความสามารถ และกำชับให้เพิ่มความระมัดระวังในการดูแลสุขภาวะส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ทุกนายในขณะปฏิบัติหน้าที่ด้วย
@@@…….กองทัพบก…. พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ กทม. จัดตั้ง “จุดบริการอำนวยความสะดวกประชาชน” ขึ้นในบริเวณแหล่งพักอาศัย ชุมชน แหล่งค้าขาย หรือสถานที่ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ รวม 53 จุด ครอบคลุมทุกพื้นที่สำนักงานเขต กทม. มีเจ้าหน้าที่ทหารและ ฝ่ายปกครอง ร่วมกันให้การดูแล อำนวยความสะดวก เป็นจุดรับแจ้งเรื่องเดือดร้อน ขอความช่วยเหลือในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ช่วยประสานส่วนราชการเพื่อส่งต่อการช่วยเหลือต่างๆ ให้คำแนะนำ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น บริการอุปกรณ์ป้องกันเชื้อ ช่วยติดต่อเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ เป็นต้น
@@@……โดยช่วงกลางดึก ผบ.ทบ.ได้เดินทางไปเยี่ยมที่ “จุดอำนวยความสะดวกประชาชนกองทัพบก” 5 จุดได้แก่ วัดแก้วฟ้า, BTSหมอชิต, ชุมชนวัดมะกอก, หน้าเอเซียทรีค และชุมชนสะพานผ่านฟ้า และในช่วงกลางวัน ผบ.ทบ.ได้ตรวจเยี่ยม อีก 4 พื้นที่ ได้แก่ People park อ่อนนุช,หน้า รร. Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit ,ศูนย์พักคอยรอการส่งต่อผู้ป่วยCOVID19 เขตคลองสานและสถานีรถไฟเตาปูน โดยได้กล่าวให้กำลังใจเจ้า หน้าที่ กำชับเรื่องการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยความรวดเร็วทันต่อความเดือดร้อนของประชาชน การแบ่งโซนความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยทหาร พร้อมให้คำแนะนำการเสริมความพร้อมอื่น ๆ เช่น เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ “ศูนย์ประสานงานต้านภัยCOVID-19 กองทัพบก” การจัดตู้ปันสุขมีสิ่งของที่จำเป็นสำหรับผู้ที่เดือดร้อน เตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วสำหรับการช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ที่สำคัญคือให้ความอุ่นใจกับประชาชนและชุมชนว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่ใกล้ พร้อมดูแลช่วยเหลือเคียงข้างประชาชนในทุกเรื่อง
@@@…….กองทัพเรือ โดย กองกําลังป้องกันชายแดนจันทบุรี(กปช.จต.) ร่วมกับจังหวัดจันทบุรี สสจ.จันทบุรีและ อบจ.จันทบุรี ปรับปรุงลานขนถ่ายสินค้า ที่ทำการ อบจ.จันทบุรี อ.เมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี เป็น โรงพยาบาลสนาม โดย กปช.จต. ให้การสนับสนุนชุดช่างเคลื่อนที่ ปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ภาคประชาชน พลเรือน ในการเชื่อมโครงสร้างเหล็ก บริเวณโดยรอบลานขนถ่ายสินค้า ทั้งนี้ โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ สามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 370 เตียง โดยได้รับการสนับสนุนเตียงนอนทหารทั้งหมดจาก หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในห้วงต้นเดือนสิงหาคม
@@@…….พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้สั่งการให้ ศูนย์ปฏิบัติการพลเรือน-ทหาร ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ (ศป.พรท.ศบภ.ทอ.) สนับสนุนการลำเลียงอุปกรณ์การแพทย์ไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งกองทัพอากาศร่วมกับมูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย และโครงการทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน ร่วมปฏิบัติภารกิจ “เติมน้ำใจ ต่อ…ลมหายใจ” โดยได้ดำเนินการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศไทย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด-19
@@@…….ปิดท้ายการช่วยเหลือน้ำท่วม โดย พ.อ. ยศศักดิ์ บรรเทา ผบ.นพค.33 สนภ.3 นทพ./ผอ.ศบภ.นพค.33 จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว นพค.33 พร้อมรถขุดตักแขนยาว จำนวน 1 คัน ร่วมกับ นายมานพ ยะเขียว นายก อบต.แม่ปะ ,ปภ.แม่สอด และเครื่อข่ายบรรเทาสาธารณภัย อำเภอแม่สอด ร่วมสำรวจพื้นที่น้ำท่วมขัง และประสานงานเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง โดยดำเนินการวางแผนขุดทางระบายน้ำ ในพื้นที่ชุมชนบ้านแม่ปะ ใกล้ปั้ม ปตท.แม่ปะ ถนน ทล.105 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง ณ พื้นที่ ชุมชนบ้านแม่ปะ ใกล้ปั้ม ปตท.แม่ปะ ถนน ทล.105 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จังหวัดตาก
………………………
คอลัมน์ “Military Key”
โดย “รหัสมอร์ส”
