“ภท.-ปชป.-ชทพ.” กล้าถอนตัวหรือเปล่า

ม็อบราษฎร ยกระดับ “ปฏิวัติประชาชน” และขยับให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ “Republic of Thailand” เป็นคำกล่าวของระดับแกนนำคนหนึ่ง

ก่อนหน้านั้นผลที่ประชุมรัฐสภามีมติ 366 ต่อ 316 งดออกเสียง 15 ให้รัฐสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดปัญหาการทำหน้าที่ของรัฐสภาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 

“ราษฎรเต็มขั้น” เฝ้าติดตาม 2 เหตุการณ์เคลื่อนไหวแบบนี้แล้ว รู้สึกหดหู่ หว้าเหว่ บอกไม่ถูกว่าอนาคตประเทศไทยจะเดินอย่างไรต่อ 

แกนนำอีกกลุ่มก็ห้าวเป้ง “สำลักเงาตัวเอง” อีกกลุ่มเข้าข่าย “สำลักอำนาจ” 

พลังเงียบควรวางตัวเยี่ยงไร ถือหางม็อบราษฎรในบางเรื่อง ถือหางกลุ่ม “สำลักอำนาจ” ในบางเรื่อง หรือคอยยืนเคียงข้าง “ตาอยู่” ซึ่งกลุ่มผลประโยชน์อีกกลุ่ม ที่เตรียมเข้ามากวาดล้างปกครองประเทศเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 

โจทย์ใหญ่ประเทศไทยข้อนี้แหละ ที่คณะกรรมการสมานฉันท์ควรตีให้แตก อย่างน้อยดูรายชื่อกรรมการสมานฉันท์ ยังพออุ่นใจขึ้นมาบ้างเมื่อมีนักปฏิรูปหัวก้าวหน้าร่วมขบวนอยู่ คงมีความหวังเป็นทางออกให้บ้านเมือง 

หากยังปล่อยให้สังคมเดินตามก้น แกนนำกลุ่มสำลักเงาตัวเอง ที่ควรปฏิวัติตัวเองก่อนนำทัพปฏิวัติประชาชน ให้ปล่อยให้ตามกลุ่มสำลักอำนาจ บอกด้วยคำเดียว….จบเห่ประเทศไทย  

อีกทางออกที่พอเป็นความหวังอยู่บ้าง หลังเห็นผลคะแนนที่ประชุมรัฐสภาลงมติ ตามที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เจ้าของวลี “ใช้กฎหมายเป็นอาวุธ” เสนอญัตติด่วน ให้รัฐสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดปัญหาการทำหน้าที่ของรัฐสภาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 

เจ้าตัวยังชี้ให้เห็นสเต็ปต่อไป หากขัดรัฐธรรมนูญย่อมเปลี่ยนเป็นแก้รายมาตรา โดยตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมให้ส.ส.และส.ว.ทำหน้าที่แทนสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ประหยัดเวลาและงบประมาณ 

ระดับนี้เดินเกมย่อมได้รับไฟเขียวจากผู้ที่มีอำนาจสูงกว่า มองไปสอดรับกับความเห็นของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ “บิ๊กป้อม” พล.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ย้ำจุดยืนรัฐบาลสนับสนุนเต็มให้แก้ไข 

“ส.ส.หรือส.ว.ต้องหาข้อยุติให้ได้ ถ้าไม่ได้ย่อมผ่านกระบวนการศาลฯ ผมไม่มีสิทธิ์ไปสั่งการตรงนี้ ผมนำเสนอเขไปแล้ว (รัฐสภา)” น้ำเสียง “บิ๊กตู่” แจงยิบ 

ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล ทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา แท็กทีมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ถอนญัตติ เพราะมีเจตนาแอบแฝงเตะถ่วงแก้กติกาของประเทศ 

นอกจากสะท้อนให้เห็นเสียงฝักถั่วสมาชิกวุฒิสภาแล้ว ยังได้เห็นร่องรอยของ ผู้มีอำนาจกดปุ่มสั่งได้ชัวร์ ยังไม่นับเสียง งูเห่า ที่ฝากเลี้ยงไว้ในฟาร์มของคู่แข่ง เก็บไว้ใช้ในยามขับคัน หรือในยามที่พรรคร่วมรัฐบาลเล่นเกมป่วน 

จากรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ กลายเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ อาการ “สำลักอำนาจ” จึงโผล่ห่างให้เห็น 

วันนี้ 3 พรรคต้องแสดงสปิริตถอนตัวออกจาก “รัฐบาลลุงตู่” ทันที  

ตัดห่างปล่อยให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อแก้อาการ “สำลักอำนาจ 

ถึงวันนั้นแผ่นดินประเทศไทยย่อมสูงขึ้น แต่คงไม่มีวันนั้น เพราะคำว่า “ผลประโยชน์” ตัวเดียว

………………………..

คอลัมน์ : ไขกุญแจ ไขแหลก

โดย “ราษฎรเต็มขั้น”