นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ชี้เชื้อโควิด19 กลายพันธุ์ได้รวดเร็ว เพราะเป็นเชื้อสายเดียว คล้ายเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ ไทยเร่งระดมฉีดวัคซีนแบบปูพรม ลดแพร่เชื้อดั้งเดิมให้สงบก่อน
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการ”กวนข่าว กวนคน” ทางคลื่นFM102.5MHz ถึง ความคืบหน้าของการผลิตวัคซีนและประสิทธิภาพป้องกันโรค ตัวไวรัสกลายพันธุ์ จะทำให้วัคซีนไล่ทันหรือไม่
นพ.ทวี กล่าวว่า การผลิตวัคซีนสร้างขึ้นมาแค่ประมาณ10เดือนที่ผ่านมา เราก็ต้องใช้เชื้อตัวที่เจอเมื่อ10 เดือนที่แล้ว แต่ก็เรื่องการกลายพันธุ์ทางการแพทย์รู้อยู่แล้วต้องเกิดขึ้นเพราะไวรัสโควิด19 เป็นเชื้อสายเดียวเรียกว่าอาร์แอนเอไวรัส ถ้าเป็นดีเอ็นเอไวรัส มีสองสายคุมกันและกันทำให้การกลายพันธุ์ยากกว่า แต่ตัวเดียวเป็น อิสระ กลายพันธุ์ง่ายกว่า เช่น เชื้อไข้หวัดใหญ่ กับเชื้อโควิด19คล้ายกัน
ทั้งนี้การกลายพันธุ์ของเชื้อ มันเกิดขึ้นมาก่อนที่ผลิตวัคซีนสำเร็จ และช่วงนำวัคซีนมาใช้ทดสอบ ทดลอง เอามาตั้งแต่ยังไม่กลายพันธุ์ เพราะฉะนั้นเขาก็เอาวัคซีนมาใช้บางประเทศ มีการศึกษาวิจัย ที่มีการกลายพันธุ์เร็วๆนี้ เช่นแอฟริกาใต้ เมื่อนำมาเทียบกับ สหรัฐอเมริกา มีผลประสิทธิภาพต่างกันประมาณ30% ก็เยอะพอสมควร และมีอีกวัคซีนอีกตัวหนึ่งที่เปรียบเทียบ ประเทศแอฟริกาใต้เทียบกับ ประเทศอังกฤษ เริ่มมีการกลายพันธุ์ แต่ว่าบังเอิญโครงการงานวิจัยเขาทำงานล่วงหน้าเดินหน้าไปแล้ว ได้วัคซีนชนิดเก่าที่เป็นเชื้อเก่า ได้ผล15% ขณะที่เขาบอกว่าเชื้อที่ระบาดในประเทศเขากลายพันธุ์แล้ว95%
นพ.ทวี กล่าวอีกว่า การกลายพันธุ์เป็นลักษณะของเชื้อ เป็นจริตของมันเพื่อความอยู่รอด เมื่อมนุษย์เราสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อมัน มาตรวจจับ สร้างวัคซีน มันต้องหนีถ้าไม่หนีมันต้องสูญพันธุ์ จริงๆแล้วเชื้อตัวนี้ที่เป็นเชื้อกลายพันธุ์ เพิ่งมาทราบกันมา 3-4 เดือน เริ่มต้นจากประเทศอังกฤษ ไปเจอเชื้อที่ตัวมิงค์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ฆ่าตัวมิงค์กี่ล้านตัวเพื่อสกัดกั้น เอาจริงสกัดกั้นไม่อยู่ ตัวมิงค์ไม่ได้อออกไปผับบาร์ ช้อปปิงมอลล์ คนนี่แหละที่ไปตามที่ต่างๆ ต้องยอมรับว่าการกลายพันธุ์ เร็วมากนักวิทยาศาสตร์จะต้องติดตามไล่จับไปเรื่อยๆ
“มาถึงจุดว่าระหว่างการกลายพันธุ์มีผลกระทบชีวิตเราหรือไม่ ถ้ากระทบตัวเชื้อเองก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน แต่นักวิทยาศาสตร์พบว่าการแพร่เชื้อเร็วขึ้น 15-45% ไปเร็วขึ้น แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าโรครุนแรงขึ้นหรือไม่ ซึ่งได้เก็บเชื้อมาดูว่าเป็นเชื้อดั้งเดิม หรือกลายพันธุ์ ว่าความรุนแรงของโรคยังไม่ค่อยแตกต่างกัน เก็บเอาเชื้อจากคนเป็นโรค และดูจากการตาย จากเชื้อเก่าหรือใหม่ เชื้อตัวเก่ามาทำวัคซีน ต่อสู้เชื้อตัวใหม่ได้หรือไม่ ข้อสำคัญวัคซีน สร้างจากเชื้อตัวเก่า ทำเป็นวัคซีน ว่าต่อสู้กับการกลายพันธุ์ใหม่ เริ่มพบว่าเจอข้อจำกัดกับเชื้อ ตรงนี้ต้องมาคิดกันต่อว่าถ้ากลายพันธุ์มากๆจะทำอย่างไร”นพ.ทวี กล่าว
ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า ปกติวัคซีน ทุกยี่ห้อต้องฉีดสองเข็ม เมื่อฉีดเข็มแรก ร่างกายจำได้หน้าตาเชื้อโควิด เป็นเชื้อดั้งเดิม เข็มสองอาจเอาเชื้อที่กลายพันธุ์มาใส่ รวมทั้งต้องกลับไปดูเชื้อตัวดั้งเดิม ต่อสู้ได้เยอะพอสมควรไหม ถ้ามีประสิทธิภาพ 90% ลดลงไป15% โอเคไหม ในทางการแพทย์ไม่ต้องไปสร้างใหม่ เพราะมีของพร้อมกินพร้อมใช้อยู่แล้ว
สำหรับประเทศไทย เชื้อกลายพันธุ์มากับคน เดินทางจากต่างประเทศ ก็เข้ามาอยู่ในสถานกักกัน คนติดเชื้อเราไปดูต้นตอ จากอังกฤษ แอฟริกาใต้ หรือบราซิลมาไทยน้อยมาก แต่มาจากอังกฤษเกี่ยวข้องกับเรามาก ร.พ. จุฬาฯเจอ เชื้อกลายพันธุ์มาจากอังกฤษ เป็นครอบครัว กักตัวไว้ ระวังเป็นพิเศษ เคสนี้ก็จบ ขณะนี้เชื้อบ้านเรายังเป็นเชื้อดั้งเดิม
ในส่วนเรื่องวัคซีนปรากฏว่าข้อมูลทั้งหลาย วัคซีนแอดตร้าซิเนก้า บอกว่าควรจะฉีดเข็มแรก กับเข็มสอง ห่างกัน4 สัปดาห์ แต่ที่ผ่านมาเกิดระบาดระลอกใหม่ทำให้โรงงานสร้างไม่ทัน ที่จะไปวิจัย เครื่องบินต่างๆปิดหมด เกิดความาล่าช้า 12 สัปดาห์ หรือเกินกว่า3เดือน ผลปรากฏว่าฉีดเข็มสอง ห่างกันยิ่งนานออกไปยิ่งเป็นผลดี กลายเป็นว่าเวลานานยิ่งดี เหมือนเด็กฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด ห่างกัน 3 เดือน เพราะเป็นเชื้อตัวเป็น วัคซีนแอนตร้าชิเนก้า เป็นตัวเชื้อตัวเป็น ฉีดเข้มสองควรมีระยะ ซึ่งส่วนของไทย ถ้าเป็นแอดตร้าซินเนกร้า กระทรวงสาธารณสุข รับลอตแรก 5 หมื่นโด๊สในเดือนนี้ ตอนนี้ก็สามารถปูพรหมฉีด5หมื่นโดสได้ พอไปถึงสิบสองสัปดาห์ เราผลิตเองได้ จากสยามไบโอไซส์ เอาของเราเองได้ก็ฉีดเข็มสอง ดังนั้นเข็มแรกจะฉีดได้กลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้น
“ช่วงระหว่างรอฉีดเข็มสอง มันก็ป้องกันได้ ไม่ต้องห่วง วัคซีนเข็มเดียวประสิทธิผลเท่ากับน้ำเกือบเต็มตุ่ม เข็มที่สองมาน้ำเต็มตุ้ม คิดดูหากฉีกเข็มแรกแบบปูพรมจะได้คนอีกเท่าตัว ป้องกันได้การระบาดได้เร็วขึ้น เราสามารถบริหารจัดการได้ดีขึ้นด้วย”
นพ.ทวี กล่าวว่าขอยกตัวอย่างที่ประเทศอิสราเอลมีการฉีดให้กับประชากร55% เป็นประเทศที่10 สูงสุดที่ในโลก ซึ่งประชากรน้อยกว่าไทยสิบเท่า ปรากฏว่าเริ่มเห็นผลการระบาดลดลง 30% หลังจากฉีดไป1เดือน ของไทยการระบาดต่ำอยู่แล้วเทียบกับประเทศอื่นเราไปกังวลกับตัวเลขคนติดเชื้อกระจุกตัว 900 กว่าคน อย่างประเทศมาเลเซีย ติดเชื้อ วันละ 4-5 พันคน มีประชากร 30กว่าล้านคน ขณะที่ประชากรต่ำกว่าเราหากฉีดวัคซีนทำให้การระบาดลดลงมากกว่าไทย อย่างไรประเทศเราก็ต้องฉีด สุดท้ายวัคซีนอยากได้ลักษณะมาฉีดแบบปูพรม ซึ่งยังมีเวลาบริหารจัดการ
