“สมชัย”ชี้ ‘บิ๊กตู่’ รักษาการไม่ได้ ต้องพ้นตำแหน่งทันที หากศาล รธน.ตีความครบวาระ 8 ปี เทียบกรณี ‘ยิ่งลักษณ์’
เมื่อวันที่ 6 ส.ค.65 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีการตีความ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกฯ ครบ 8 ปี ว่า มีช่วงเว้นว่างคือหากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องก็ต้องใช้เวลาพิจารณาซึ่งไม่รู้จะแล้วเสร็จเมื่อไร แต่ถ้าศาลตีความว่า พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. โดยผลวินิจฉัยออกมาหลัง 23 ส.ค. การกระทำตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. จนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่ถือว่าเสียไป เช่นเดียวกับกรณี ส.ส.คือนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรค พปชร. ที่ถูกพิจารณาว่าขาดคุณสมบัติตั้งแต่วันเลือกตั้ง แต่การลงมติอะไรต่างๆ ในช่วงเป็น ส.ส.ของนายสิระ ถือว่าไม่มีปัญหา
“สมมุติว่า ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งในเดือน ม.ค.66 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีมติ ครม.อะไรไปก็ไม่เสีย แต่เท่ากับต้องคืนเงินเดือน สิทธิสวัสดิการทั้งหมดที่ได้ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.65 และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ รักษาการไม่ได้ ต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยคณะรัฐมนตรีที่ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมีมติให้รองนายกฯ คนใดคนหนึ่งขึ้นรักษาการนายกฯ แทน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน เหมือนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกคำพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่ง ก็อยู่รักษาการไม่ได้ ครม.ต้องตั้งนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ ขึ้นรักษาการนายกฯ แทน แต่ต้องเป็นมติ ครม. ไม่ใช่เลื่อนชั้นรองนายกฯ อันดับหนึ่งขึ้นมาอัตโนมัติ เท่ากับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ขึ้นมาเป็นนายกฯ รักษาการไม่ได้ ต้องผ่านมติที่ประชุม ครม.” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวต่อว่า แต่สำหรับ ครม.ถือว่า เป็น ครม. ตัวจริง จนถึงวันที่ 23 มี.ค.66 ที่สภาครบวาระ ในช่วงที่มีการจัดการเลือกตั้ง 45 วัน นั่นคือ ครม.รักษาการ ซึ่งบทบาทหน้าที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169 กำหนดสิ่งที่ทำไม่ได้ เช่น การก่อหนี้ผูกพันหรืออนุมัติงบผูกพัน, การแต่งตั้งโยกย้าย, การนำทรัพยากรราชการไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ ทั้งนี้ ย้ำว่า การเป็นนายกฯ รักษาการ ไม่ใช่รักษาการจนเลือกตั้ง แต่ต้องรักษาการจนกว่าจะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกฯ ใหม่ จากบัญชีพรรคการเมืองที่มีอยู่ ซึ่งหากจะใช้กลไก ม.172 นายกฯ นอกบัญชีรัฐธรรมนูญดูไม่คุ้ม เพราะเวลาสภาเหลือไม่มาก….
