14 วันเต็ม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม “ผอ.ศบค.” ต้องกักตัวสวมสูทสั่งการอยู่ที่บ้าน หลังพบคนติดเชื้อโควิด-19 ในงานภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
ในจังหวะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้าสู่ระลอกใหญ่ “สายพันธุ์เดลต้า” ยึดครองโลก รวมถึงประเทศไทย และ “สายพันธุ์แลมบ์ดา” สุดอันตรายกว่า ก็กำลังระบาดกว่า 30 ประเทศ
นับจากเดือนก.ค.-ก.ย.64 เราอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศ ไวรัสร้ายกลายพันธุ์ระบาดรุนแรงกว่าเดิม ตามคำเตือนของบรรดาแพทย์และ ศบค. คาดสัปดาห์หน้า มีโอกาสผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุ 1 หมื่นราย
แต่ยังพอมีทางรับมือ โดย นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ส่งสัญญาณเตือนว่า นโยบายจาก “ศบค.-รัฐบาล” ต้องชัด ประชาชนทุกคนต้องให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ระบบการควบคุมโรคดี ระบบการรักษาพยาบาลเข้มแข็ง และการฉีดวัคซีนต้องครอบคลุม
เดินไปในทิศทางเดียวกัน…รับรองระบบสาธารณสุขไทย ไม่มีวันล้มเหลว
วันนี้ ศบค. ประกาศล็อคดาวน์กทม.-ปริมณฑล-4 จังหวัดชายแดนภาคใต้แน่ จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับรอตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่แต่ละวันสูงแค่ไหน “ตอนนี้รอข้อเสนออย่างเป็นทางการ รับฟังความเห็นจากสาธารณสุขก่อน” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯสมช. และผอ.ศปก.ศบค. แง้มประตูล็อคดาวน์
เพราะหากไม่ยอมเจ็บระยะสั้น มีโอกาสสูงบานปลายติดเชื้อบานตะไท ใบไม้ร่วงนับไม่ถ้วน เศรษฐกิจไม่ต้องพูดถึง สถานประกอบการแต่ละแห่ง แค่ประคองตัวให้มีลมหายใจรอดชีวิตได้แต่ละเดือน ยังหืดขึ้นคอ บางรายยอมเฉือนเนื้อ เฉือนหัวใจของตัวเอง หล่อเลี้ยงชีวิตธุรกิจให้คืบคลานไปได้
ในยามประเทศวิกฤติทุกมิติเช่นนี้ เรายังมองเห็นโอกาสของประเทศไทยอยู่ปลายอุโมงค์ นายกฯต้องกล้าพลิกสถานการณ์กลับมาเป็น “ผู้นำที่ประชาชนเชื่อมือ-เชื่อถือ-เชื่อมั่นหรือศรัทธา” นายสติธร ธนานิธิโชติ ผอ.สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า แนะอย่างตรงไปตรงมา
โดยจี้จุดอ่อนนายกฯ ที่นั่งถ่างขาคุมศบค.และทีมเศรษฐกิจรัฐบาล พอถึงคิวทีเด็ดทีขาด สื่อสารปมโควิด-19 หรือด้านเศรษฐกิจทีไร ศรัทธาติดลบเพิ่มขึ้นตลอด ฉะนั้นควรเฟ้นหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อสื่อสารต่อสาธารณะแทน โดยมีนายกฯเป็นแบ็คอัพ
เพราะนับจากนี้ไป วิกฤติบ้านเมืองทุกมิติ หนักขึ้นทุกด้าน ประเทศไทยมีโอกาสสูงเดินลงปากเหว
เฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกล็อคดาวน์ 30 วัน แต่ยังไม่ถึง 15 วัน หลายสถานประกอบการกำลังมีอาการสาหัส เงินสดกำลังขาดมือ ไม่มีส่งดอกเบี้ยสถาบันการเงิน และปัญหาตามมาอีกมากมาย
เจอล็อคดาวน์ซ้ำอีกดอก ภาคอสังหาริมทรัพย์ล้มพับแน่ สะเทือนถึงสถาบันการเงินและธุรกิจต่อเนื่อง กระทบกลายเป็นโดมิโน
เป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องช่วยกันคิด หลังล็อคดาวน์ผลกระทบตามมามหาศาล โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ มาตรการช่วยเหลือ เหมือนล็อคดาวน์เม.ย.63 ไม่ได้
ฉะนั้นนายกฯควรอาศัยช่วงกักตัวเองอยู่ที่บ้าน ทบทวนการบริหารราชการแผ่นดินในช่วงโควิด-19 และปรึกษาทีมงานที่มี “แนวคิดนอกกรอบ” คลอดมาตรการประคองปีกเศรษฐกิจ
หากได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ “ราษฎรเต็มขั้น” ขอเสนอให้นายกฯต้องกล้ารับฟังปัญหาจากรัฐสภา ผ่านญัตติแก้ปัญหาโควิด-19 เพื่อฟังข้อมูลอีกด้าน ไปกำหนดเป็นนโยบายแก้วิกฤติในด้านต่างๆ
ขณะเดียวกันเป็นโอกาสดีของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง เชิญผู้ประกอบการต้านต่างๆ ที่ประสบปัญหาเข้าขั้นไอซียู ระดมสมองผ่านระบบซูม เพื่อนำมากำหนดเป็นนโยบายแก้ปัญหาให้ถูกจุด
โปรดกรุณารีบทำก่อนระบบสาธารณสุขล้มเหลว และเศรษฐกิจของประเทศพังพาบ
……………………………………………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย “ราษฎรเต็มขั้น”
